รายละเอียดเกี่ยวกับงานในหน้าที่ (Job Description) รายละเอียดของงานมักบอกเฉพาะตำแหน่งงานที่สำคัญเท่านั้น ตัวอย่างการบอกลักษณะของงาน เช่น 1) Responsible for agreement documentation and co-ordination with outside law consultancy firm. รับผิดชอบงานด้านเอกสารสัญญา และติดต่อกับบริษัทให้คำปรึกษาทางกฎหมายต่าง ๆ 2) To formulate strategies for new customers development in various electronics field. เพื่อสร้างกลยุทธ์การพัฒนาลูกค้าใหม่ในสายงานต่าง ๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์ 3) To assist the Branch Manager in promoting the sales of tyres and related products to tyre dealers in the Bangkok metropolitan area as well as in the provinces. เพื่อช่วยผู้จัดการสาขาในการส่งเสริมการขายยางรถยนต์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่ตัวแทนจำหน่ายในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด 5.
ข้อมูลของบริษัทเบื้องต้น ขั้นแรกสุดที่จะทำให้คนอ่านสนใจก็คือข้อมูลของบริษัท โดยเฉพาะชื่อของบริษัท เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะรู้ว่าบริษัทไหนมีข้อดีอย่างไร การใส่ชื่อบริษัทและข้อมูลของบริษัทคร่าวๆ ก่อน จะเป็นตัวตัดสินว่าผู้อ่านจะสนใจรายละเอียดอย่างอื่นต่อหรือไม่ 2. เหตุผลที่ควรทำงานกับทางบริษัท การบอกรายละเอียดหรือว่าข้อดีของการทำงานกับทางบริษัทว่าดีอย่างไร จะเป็นแรงจูงใจอย่างดีว่าผู้อ่านต้องการจะร่วมงานด้วยหรือไม่ โดยการเลือกใช้คำในการชักชวน ควรเป็นคำที่สั้น ได้ใจความชัดเจน เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความสนใจทันทีที่เห็นข้อความเหล่านั้น 3. ตำแหน่งงานที่ต้องการ ตำแหน่งงานควรใส่เข้ามาให้ครบถ้วน โดยตำแหน่งงานที่ใส่มควรมีการบอกรายละเอียดต่างๆ แบบคร่าวๆ ให้ผู้สมัครได้รู้ด้วยว่าคุณสมบัติที่ต้องการนั้นมีอะไรบ้าง เช่น ต้องการรับเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานเท่านั้น หรือรับเฉพาะคนที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ หรือจะกำหนดเป็นช่วงอายุของผู้สมัคร 4. ค่าตอบ แทน เป็นสิ่งที่ผู้สมัครต้องการอยากจะทราบมากที่สุดเป็นอันดับแรก ดังนั้นในการประกาศรับสมัครงานควรใส่ราบละเอียดของผลตอบแทนเข้าไปด้วย ว่าแต่ละตำแหน่งได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ หรือวิธีการจ่ายจะจ่ายอย่างไร เช่น การจ่ายตามความสามารถ ตามประสบการณ์ หรือว่ามีค่าคอมมิชชั่นเข้ามาด้วย 5.