ในการอ่านค่าความดันนั้น มีหลักการในการอ่านค่าอยู่หลายวิธี บางวิธีก็จะใช้ช่วงอายุ มาบวก 100 เพื่อหาค่าความดันสูง เช่น อายุ 50 ก็นำมาบวก 100 จะได้ 150 นั่นก็คือค่าความดันตัวบนไม่ควรเกิน 150 เป็นต้น ในปี พ. ศ.
หน้าหลัก ออกกำลังกาย สุขภาพดี อาหารสุขภาพ สุขภาพจิต สุภาพสตรี ตรวจสุขภาพ การแปรผลเลือด โรคผิวหนัง แพทย์ทางเลือก โรคต่างๆ วัคซีน health calculator อาการของโรค 1.
เปิดวาล์วลูกยางเพื่อปล่อยลมออก หลังจากเส้นปรอทวิ่งขึ้นไปถึงระดับสูงสุดที่ประมาณไว้แล้ว ให้ทำการเปิดวาล์วลูกยางและค่อยๆ ปล่อยลมออกมาประมาณ 2 มิลลิเมตรปรอท/วินาที เพื่อเป็นการวัดค่าความดัน โดยให้คอยฟังเสียงสองตุ้บแรกให้ดี ซึ่งเสียงตุ้บครั้งแรกจะเป็นค่าความดันตัวบน ส่วนเสียงตุ้บครั้งที่สองจะเป็นค่าความดันตัวล่าง เมื่อทำการวัดความดันเสร็จแล้ว ให้จดบันทึกค่าความดันที่วัดได้เอาไว้ พร้อมกับบอกค่าที่ได้ให้กับผู้ป่วยทราบ 6. ทำการวัดซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง การใช้เครื่องวัดความดันแบบปรอท ควรทำการวัดซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อความถูกต้องและแม่นยำในการวัดค่า ซึ่งในการวัดแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างกันประมาณ 2 – 5 นาที เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักและรู้สึกผ่อนคลาย โดยค่าที่ได้จากการวัดทั้ง 2 ครั้ง ค่าความดันตัวบนจะต้องไม่ต่างกันเกิน 20 มิลลิเมตรปรอท และค่าความดันตัวล่างต้องไม่ต่างกันเกิน 10 มิลลิเมตรปรอท หากค่าที่ได้ต่างกันมากเกินไป ก็ให้ทำการวัดครั้งที่สามซ้ำอีกรอบ แล้วนำค่าที่วัดได้ทั้งหมดมาเฉลี่ยกัน 7.
5- 22. 9 น้ำหนักมาก 23. 0 – 24. 9 อ้วน มากกว่า 25. 0 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินวันละ 10, 000 ก้าว ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นทั่วโลกพบว่าสามารถ ช่วยลดค่าความดันโลหิต เลิกดื่มแอลกอออล์ และงดสูบบุหรี่ กินอาหารลดความดัน ลดเกลือโซเดียม (กินน้ำปลาไม่เกิน1/2 ช้อนโต๊ะ/มื้อ) หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด กินผักผลไม้สดและปลามากขึ้น กินเนื้อสัตว์น้อยลง โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ที่มีหนังติดมัน และเนื้อปรุงแต่ง เช่น ไส้กรอก หมูแฮม เบคอน หายใจช้า+ฝึกสมาธิ เพราะการหายใจช้า คือ หายใจต่ำกว่า 10 ครั้งต่อนาทีเป็นเวลา 15 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันได้ และการฝึกสมาธิยังช่วยให้เราหายใจช้าลงและช่วยคลายเครียดด้วย
พันปลอกแขนให้อยู่ระดับเดียวกับหัวใจ บางคนก็ไม่ทราบว่าควรพันปลอกแขนในระดับไหนดี บางครั้งสูงไปบ้างบางคนก็พันแขนต่ำไปบ้าง ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ได้ค่าผิดเพี้ยนได้ค่ะ ดังนั้นก็แนะนำว่าให้พันปลอกแขนให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ แบบนี้ก็จะช่วยให้เราได้ค่าความดันโลหิตที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง นอกจากนี้เรายังต้องวางแขนให้สบายอยู่ระดับเดียวกับหัวใจ ไม่ชูแขน ไม่เอาแขนลงต่ำ และไม่พันปลอกแขนแน่นจนเกินไป โดยให้เราลองทดสอบด้วยการเอานิ้วสอดเข้าไปได้ แบบนี้ก็จะได้ค่าความดันที่ถูกต้องค่ะ 6. วัดความดัน 2 ช่วงเวลา แนะนำว่าให้วัดความดันตอนเช้าและตอนเย็น ช่วงละ 2 รอบค่ะ คือตอนเช้าให้วัดความดัน 1 รอบแล้วเว้น 1 นาทีจากนั้นวัดซ้ำอีกครั้ง ส่วนในตอนเย็นให้ให้ทำแบบเดียวกันค่ะ จากนั้นก็ให้จดบันทึกเอาไว้ เพื่อดูค่าเฉลี่ยโดยรวม โดยค่าความดันโลหิตจะมีอยู่ 2 ตัวด้วยกัน คือค่าบนและล่าง โดยเลขตัวบนจะเป็นช่วงที่หัวใจบีบตัวและเลขตัวล่างเป็นช่วงหัวใจคลายตัวค่ะ หากใครที่วัดความดันของที่บ้านมาแล้วมีค่ามากกว่า 135/85 มิลลิเมตรปรอท โดยมีเลขตัวบนเกิน 135 หรือเลขตัวล่างเกิน 85 แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่อไปค่ะ
วิธีใช้เครื่องวัดความดัน-วิธีการวัดความดันโลหิต ขั้นตอนการวัดความดันโลหิตที่ถูกวิธี 1. การเตรียมตัวก่อนวัดความดันโลหิต งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ก่อนวัด 30 นาที และควรนั่งพัก 5 นาที ก่อนเริ่มวัด 2. พันผ้าพันแขนให้ถูกต้อง ควรวัดความดันแขนข้างที่ไม่ถนัด หรือข้างที่ได้ค่าความดันโลหิตสูงกว่า อย่าใส่เสื้อหนา หรือเสื้อที่รัดแขนแน่น พันผ้าพันแขน ให้อยู่เหนือข้อศอก 1-2 ซม. พันให้แน่นกำลังดี คือยังสอดนิ้วเข้าไปได้ 1-2 นิ้ว ให้สายวาง ตามแนวนิ้วกลาง-นิ้วนาง อย่าให้สายงอ 3.