ปรับเงินเดือนเมื่อ Promote และขึ้นเงินเดือนประจำปีแบบแยกยอด 1. 1 วิธีที่ 1: บริษัทขึ้นเงินเดือนประจำปีให้นาย A ไปก่อนแล้วถึงจะปรับเงินเดือนเนื่องจากการ Promote ให้ก็จะเป็นแบบนี้ 30, 000*8%=2, 400 บาท ฐานเงินเดือนใหม่ = 32, 400 บาท แล้วปรับเงินเดือนเมื่อ Promote ให้นาย A อีก 10% คือ 32, 400*10%=3, 240 บาท เงินเดือนใหม่ = 35, 640 บาท 1. 2 วิธีที่ 2: บริษัทใช้ฐานเงินเดือนปัจจุบันแล้วปรับขึ้นไปรวม 18% คือ 30, 000*18%=5, 400 บาท เงินเดือนใหม่ = 35, 400 บาท 1. 3 ถ้าใช้วิธีที่ 2 นาย A จะเสียประโยชน์ไป 240 บาท ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่บริษัทจะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนว่าจะใช้หลักในการปรับเงินเดือนทั้ง 2 ประเภทนี้โดยใช้ฐานเงินเดือนไหนจะได้อธิบายให้พนักงานทราบได้โดยไม่ต้องมีดราม่าตามมานะครับ แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีที่ 1 หรือ 2 ผมก็ยังถือว่าบริษัทยังใช้ "หลักเกณฑ์" หรือมีกติกาที่อธิบายให้พนักงานเข้าใจได้ 2. ปรับเงินเดือนเมื่อ Promote และขึ้นเงินเดือนประจำปีแบบรวมยอด บริษัทที่เห็นว่าถ้าจะปรับเงินเดือนให้ตามข้อ 1 จะทำให้มีเปอร์เซ็นต์การปรับที่มากเกินไปตั้ง 18% ก็จะใช้ "หลักกู" คือคิดเปอร์เซ็นต์ปรับแบบเหมา ๆ รวม ๆ ขึ้นมา เช่น ปรับให้สัก 12% ก็แล้วกันโดยรวมทั้งการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote เข้ากับการขึ้นเงินเดือนประจำปี ดังนั้นนาย A ก็จะได้รับการปรับเงินเดือนแบบเหมา ๆ ถัว ๆ กันไปคือ 30, 000*12%=3, 600 บาท เงินเดือนใหม่ = 33, 600 บาท เวลาแจ้งให้นาย A ทราบก็จะบอกว่านาย A ได้รับการขึ้นเงินเดือนประจำปีรวมการปรับเงินเดือนเพราะได้รับการ Promote คือ 12% คุ้น ๆ กับวิธีปรับแบบนี้ไหมครับ?
การกำหนด Min, Max และ Midpoint ต้องอิงกับค่างานและข้อมูลเงินเดือนของตลาดจริง ๆ (เพราะจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าใช้วิธีนี้แล้วไม่มีข้อมูลอ้างอิงที่เหมาะสมหรือไม่มีการจ่ายตามค่างาน) 2.
การคิด เปอร์เซ็นการขึ้นเงินเดือน ด้วย Excel - YouTube
การปรับฐานเงินเดือนเป็นรายบุคคล เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ ของฐานเงินเดือนเดิม หรือ จำนวนเงินที่จะเพิ่มให้ในแต่ละเดือนเลย การปรับเช่นนี้จะแตกต่างกันในแต่ละคน และ แต่ละคนก็จะไม่ขึ้นกับใครเลย ซึ่งส่วนใหญ่จำนวนเงินหรือเปอร์เซ็นต์ จะถูกกำหนดโดยหัวหน้างานหรือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ 2. การปรับฐานเงินเดือนรวมแต่ละแผนก ซึ่งจะเป็นการกำหนด จำนวนเปอร์เซ็นต์ หรือ จำนวนเงิน ของ เงินเดือนรวมของแต่ละแผนกว่า แต่ละแผนกจะได้ปรับเป็นจำนวนเท่าใด และจะกระจายเงินเดือนเหล่านั้น ให้กับทุกคนในแผนกเท่าๆกัน 3. การปรับฐานเงินเดือนแบบผสม เป็นการปรับฐานเงินเดือนที่คำนึงถึงเงินเดือนรวมของแต่ละแผนก และ เมื่อได้จำนวนเงินมาว่าสามารถปรับได้เท่าใด ถึงจะมีการปรับฐานเงินเดือนของแต่ละคน เพื่อให้เหมาะสมกับหน้าที่รับผิดชอบ และ ผลงานของแต่ละคนในปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น การปรับเงินเดือนขององค์กรสมัยใหม่ จึงขึ้นกับผลงานที่ผ่านมาว่าเขาทำได้ดีเพียงใด โดยกำหนดพื้นฐานเปอร์เซ็นต์การปรับเงินเดือนเอาไว้ก่อน เช่น 5% ของเงินเดือน จากนั้น ก็เอาการประเมิณผลงานมาเป็นตัววัด ซึ่งถ้าแค่ดีก็ได้ 100% ของยอดเปอร์เซ้นต์ที่ตั้งไว้ หมายถึง 5% เต็ม ถ้าดีมากก็ 120% (=6%) ถ้าดีเลิศ ก็อาจจะถึง 150% (=7.
เมื่อคุณทำงานใน บริษัท เป็นเวลาหลายปีคุณได้สะสมความเชี่ยวชาญที่สำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อการพัฒนา คิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะใช้ประโยชน์จากการขึ้นค่าจ้างหรือไม่? ท้ายที่สุดคุณได้รับมัน ในการดำเนินการนี้คุณต้องยื่นขอเพิ่มจากนายจ้างของคุณ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับสำหรับความพยายามของคุณตลอดจนตัวอย่างจดหมายขอขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทนพนักงานคืออะไร?
The base salary for employees. การปรับเงินเดือนพนักงาน นั้น โดยทั่วไปมี 3 ลักษณะ คือ การปรับฐานเงินเดือนประจำปี การปรับฐานเงินเดือนเมื่อมีเหตุจำเป็น หรือ ตามสัญญา การปรับฐานเงินเดือนเนื่องจาก ฐานเงินเดือนทั่วไปมีการปรับตัว ซึ่งการปรับเงินเดือน ทั้ง 3 แบบนั้น มีผลกระทบ ทั้งทางตรง และ ทางอ้อมกับพนักงาน อีกทั้ง วิธีการหรือขั้นตอน และ จุดประสงค์ในการปรับยังแตกต่างกันไป 1.