ความท้าทายในการทำตลาดน้ำอัดลมทั่วโลกของ 2 ยักษ์ใหญ่อย่างโค้ก และเป๊ปซี่ก็คือ จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคยังคงดื่มน้ำอัดลมอย่างต่อเนื่อง ในภาวะที่ต้องเผชิญกับทั้งการแข่งขันกับเครื่องดื่มนานาชนิด และการต่อสู้กับเทรนด์ในเรื่องของสุขภาพที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ในบางประเทศผู้บริโภคมีการดื่มน้ำอัดลมลดลง หรือเปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทอื่นแทน สำหรับในประเทศไทยนั้น ตลาดน้ำอัดลม ถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ โดยข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มีมูลค่าประมาณ 2. 25-2. 30 แสนล้านบาท และในเชิงปริมาณ 8, 500 - 8, 600 ล้านลิตร (สถานการณ์ตลาดรวมเครื่องดื่มอาร์ทีดี หดตัวลง 3. 2-5. 3% จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาด 2. 37 แสนล้านบาท แต่เชิงปริมาณเติบโตขึ้นเล็กน้อย 1. 0-2. 2% จาก 8, 415 ล้านลิตร) ตลาดน้ำอัดลม จะเป็นประเภทเครื่องดื่มที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น โดยมีมูลค่าประมาณ 5. 1 หมื่นล้านบาท รองลงไปเป็นน้ำดื่มบรรจุขวด มีมูลค่า 3. 2 หมื่นล้านบาท และชาพร้อมดื่ม มีมูลค่าประมาณ 1. 5 - 1.
1% กระแสการกลับมาของซาสี่ คงสร้างความฮือฮาในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่อยากลองสักครั้ง และคนวัยเก๋าที่อยากจะหวนระลึกถึงรสชาติที่คุ้นเคยวัยเยาว์ และแปลงเป็นยอดขายมหาศาลได้ไม่ยากในระยะแรก แต่จะยืนยาวจนเป็นทางเลือกหนึ่งบนเชลฟ์ได้หรือไม่ … เจ้าสัวเจริญ สั่งลุยทั้งที เกมนี้ได้ดูกันยาวแน่นอน