นำปลายแตงกวาทั้ง 3 ชิ้นพับลงด้านในให้ชิดโคนที่เรายังไม่หั่น จะได้แตงกวารูปใบไม้สไตล์โมเดิร์น ทีนี้ก็เอาไปประดับจานได้แล้วค่ะ 6. เอาไปประดับสัก 3 ชิ้นก็เก๋ไก๋น่ารักไปอีกแบบนะคะ ทีนี้ ก็มาดูวิธีการทำดอกกุหลาบจากมะเขือเทศกันต่อนะคะ (See how to carve tomato rose) เริ่มจากเลือกมะเขือเทศลูกโตๆ สุดท้ายนี้หวังว่าคุณๆคงจะสุนทรีกับการทานอาหารมากยิ่งขึ้นนะคะ ขอบคุณ และสวัสดีค่ะ
ผักประดับจาน ช่วยลดปัญหากลิ่นปาก: สะระแหน่ สะระแหน่ก็เป็นผักอีกอย่างที่เราจะเห็นเค้าในอาหารประเภทลาบ หรือใช้ประดับเครื่องดื่ม สมูทตี้ เพิ่มความเก๋ไก๋ให้น่ากิน คุณสะระแหน่เค้ามีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยดับคาวจากอาหารได้ดี จึงไม่แปลกหากสาวๆ จะนำเค้ามาเคี้ยวหลังมื้ออาหารซึ่งเค้าจะช่วยลดกลิ่นปากของคุณได้อย่างแน่นอน สะระแหน่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่น อีกทั้งมีฤทธิ์เหมือนยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดจึงช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ผักใบเล็กๆ ราคาไม่แพง แต่คุณภาพแพงเกินราคาจริงจริ๊ง 4. ผักประดับจาน ช่วยลดปัญหากลิ่นปาก: โหระพา เจ้าใบโหระพามักเห็นมาคู่กับลาบ นึกภาพแล้วอยากกินขึ้นมาเชียว! แม้ในพิซซ่าก็มีการนำมาโรยใส่เหมือนกัน ซึ่งคุณโหระพาเค้ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเลยค่า อย่างเช่น ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ประจำเดือนเป็นปกติ และใครที่เป็นสิวเยอะก็ต้องรีบไปจัดละค่า เพราะเค้ายังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อสิว นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยในโหระพายังช่วยลดกลิ่นปากของเราได้ด้วย ดีเบอร์นี้ อีกเดี๋ยวต้องไปจัดมาผัดขี้เมาสักจานแล้วสิ!
จัดจานให้สวยงาม ถ้าจัดอาหารภายในจานให้สวยงาม น่ารับประทาน ก็ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องตกแต่งจาน ให้ค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบสูงขึ้นอีกต่อไปแล้ว โดยอาจจะวางรูปแบบอาหารในจาน ให้โดดเด่นมากขึ้น และน่าสนใจมากขึ้น เช่น แทนที่จะวางอาหารใส่จานธรรมดา อาจจะจัดวางให้มีรูปทรงที่แปลกตาน่าสนใจขึ้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 2. เลือกภาชนะให้โดดเด่น บางครั้งภาชนะที่ใส่อาหาร ก็ช่วยทำให้เมนูนั้นๆ โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังเป็นการลงทุนครั้งเดียวแต่ได้ผลในระยะยาว ไม่ต้องเปลืองค่าวัตถุดิบ แถมไม่ต้องมาเสียเวลาตกแต่งจานอีกด้วย โดยภาชนะที่มีลวดลายสวยๆ ก็มีมากมาย และราคาก็ไม่สูงนัก ถือเป็นวิธีตกแต่งจานให้น่าสนใจที่ดีทีเดียว 3. ใช้ซอสตกแต่งแทน แทนที่จะตกแต่งจานด้วยผักชนิดต่างๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้ซอสตกแต่งแทน โดยการใช้ซอสนี้เหมาะกับอาหารแนวตะวันตก ที่มีซอสเป็นเครื่องเคียง โดยอาจจะบีบเป็นลวดลายต่างๆ ในจาน หรือ ตกแต่งด้านข้างก็สวยไปอีกแบบ นอกจากจะไม่ต้องเสียค่าวัตถุดิบเพิ่มแล้ว (เพราะอย่างไรเราก็ต้องเสิร์ฟคู่กัน) ยังรับประกันได้ว่า ลูกค้าต้องกินแน่นอน 4. ใช้วัตถุดิบที่มีในเมนู หากตกแต่งจานด้วยวิธีนี้ รับรองว่าวัตถุดิบไม่เหลือทิ้งแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าตั้งใจจะสั่ง โดยการตกแต่งวิธีนี้ถือว่าเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเราก็ไม่ต้องสั่งวัตถุดิบเพิ่ม แถมยังไม่ต้องเสียเวลา ในการจัดการวัตถุดิบใหม่อีกด้วย บทความจาก
เอกภาพ (Unity) เอกภาพในการจัดอาหาร ทำได้โดยการรวมกลุ่มของการจัดโต๊ะอาหาร เช่น การจัดจาน ช้อนส้อม หรือชุดอาหารเข้าด้วยกัน เพื่อใช้ได้อย่างสะดวกและเหมาะสมกับอาหารที่จัดนั้น ๆ ส่วนการจัดอาหารในจานควรจัดให้พอเหมาะไม่แผ่กระจายยากต่อการรับประทาน หรือเครื่องปรุงต่าง ๆ ควรอยู่ด้วยกันกับอาหารที่เสิร์ฟนั้น ๆ 5. การซ้ำ (Repetition) การซ้ำเป็นการทำในลักษณะเดิม เช่น การตกแต่งของจานด้วยลักษณะซ้ำกันแบบเดิมอย่างมีจังหวะ ได้แก่ การวางแตงกวาเรียงรอบขอบจาน เพื่อเน้นการจัดอาหารให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น 6. จังหวะ ( Rhythm) การจัดจังหวะในการตกแต่งอาหาร ทำได้หลายประการ ทั้งการจัดจังหวะของอาหารบนโต๊ะ การตกแต่ง หรือจัดตกแต่งอาหารในภาชนะ เช่นการวางแตงกวาสลับกับมะเขือเทศเรียงรอบขอบจาน หรือการจัดตกแต่งบริเวณโต๊ะอาหารด้วยสิ่งตกแต่งต่าง ๆ อย่างมีจังหวะ เช่น แจกันดอกไม้ หรือเชิงเทียน เป็นต้น 7. การเน้น ( Emphasis) ศิลปะการจัดตกแต่งอาหารให้น่าสนใจอยู่ที่การเน้น การเน้นสามารถทำได้ทั้งการตกแต่งบรรยากาศในห้องอาหาร การเน้นยังเกี่ยวข้องกับสีสันของอาหาร การตกแต่งอาหาร เช่น การแกะสลักผัก ผลไม้ หรือการจัดบรรยากาศด้วยการจัดดอกไม้ ล้วนแล้วแต่เกิดจากการเน้นทั้งสิ้น หากต้องการให้อาหารที่จัดน่าสนใจ ควรคำนึงถึงศิลปะที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ สิ่งนั้นคือ การเน้นนั่นเอง 8.
ผักชี แตงกวา มะเขือเทศ ผักกาดหอม ฯลฯ และอีกสารพัดเครื่องตกแต่งจานที่ทำให้อาหารของคุณดูน่ากินขึ้น (? )
ขนาดและสัดส่วน (Size and Proportion) ในการจัดอาหาร ขนาดและสัดส่วนนำมาเกี่ยวข้องในการจัดอาหารในภาชนะ หากภาชนะมีขนาดเล็กอาหารในจานควรมีปริมาณที่พอดี ไม่มากจนล้นหรือเลอะออกมานอกภาชนะ เพราะจะทำให้ไม่น่ารับประทาน ในการจัดอาหารบนโต๊ะ หากโต๊ะมีขนาดเล็กภาชนะที่ใช้ควรมีสัดส่วนที่พอเหมาะไม่ใหญ่จนแน่นโต๊ะ หรือเล็กจนตักอาหารไม่ถนัด 2. ความกลมกลืน (Harmony) ความกลมกลืนในการจัดอาหารจะเกี่ยวข้องกับอาหารและภาชนะ อาหารควรเหมาะสมและกลมกลืนกับภาชนะอาหารประเภททอดควรใส่ในจาน หรืออาหารประเภทน้ำควรใส่ในชาม นอกจากนี้ผลไม้ควรใส่ตะกร้าหรือถาดไม้จะเหมาะสมกว่าใส่ในถาดโลหะ อาหารบางประเภทควรคำนึงถึงความกลมกลืนของภาชนะเช่นกัน เช่น อาหารภาคเหนืออาจเสิร์ฟในขันโตก หรืออาหารภาคกลางเสิร์ฟในจานที่ดูดสวยงาม สะอาด หรือมีขอบเป็นลวดลายไทย เป็นต้น 3. การตัดกัน (Contrast) ศิลปะในการตัดกันของการจัดอาหาร ทำได้โดยการตัดกันระหว่างการตกแต่งโต๊ะอาหารและการจัดอาหาร สีของอาหารหรือการตกแต่งอาหาร แต่ในการตัดกันไม่ควรตัดกันในปริมาณที่มาก เพราะจะทำให้ขาดความน่าสนใจ ในปัจจุบันการจัดตกแต่งโต๊ะอาหารนิยมจัดดอกไม้ให้สูงเกินมาตรฐานการจัด เพื่อสร้างความสนใจและความโดดเด่นของบรรยากาศ แต่ในการจัดควรระมัดระวังเพราะจะทำให้รกและขัดต่อการสนทนาได้ ส่วนสีของอาหารหรือการตกแต่งอาหารสามารถตัดกันได้ตามความเหมาะสมของความสวยงาม 4.