อยากกู้ร่วมซื้อคอนโดต้องทำยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง?
คู่รักบางคู่ซื้อ บ้าน โดยกู้ร่วมกัน ต่อมาก็ตัดสินใจจบความรักด้วยการเลิกกัน แต่สิ่งที่ตามมา คือ จะจัดการบ้านที่กู้ร่วมกันนั้นอย่างไร เพราะถึงความรักจะจบลง แต่ภาระหนี้สินการกู้เงินของคู่รักที่ ซื้อบ้าน ร่วมกันแต่เลิกกันนั้นก็ยังคงอยู่และไม่ได้จบลงตามไปด้วย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกวิธี ขายบ้าน เพื่อจบปัญหาหรือทำการถอนชื่อผู้กู้ร่วมออกเพื่อผ่อนบ้านต่อเพียงคนเดียว ควรศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจ และตรวจเช็กเงื่อนไขของวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างละเอียด วิธีจัดการปัญหาการกู้ร่วมซื้อบ้านของคู่รักที่จะแยกทางกัน โดยทั่วไป มีวิธีแก้ปัญหาการกู้ร่วม 3 วิธีดังนี้ 1. ถอดถอนชื่อผู้กู้ร่วม ปัญหาหลักของวิธีนี้ คือ การตกลงกันให้ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของบ้านหลังนี้ และอีกฝ่ายต้องยินยอมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอม ก็ไม่สามารถถอดถอนชื่อผู้กู้ร่วมได้ แต่หากเจรจากันได้ ก็นัดหมายกันไปที่กรมที่ดินเพื่อขอโอนเปลี่ยนชื่อ โดยฝ่ายที่กู้ต่อก็ต้องผ่อนบ้านเพียงลำพัง ทั้งนี้หากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือรายได้ไม่เพียงพอ ทางธนาคารอาจจะไม่อนุมัติให้ถอดถอนชื่อผู้กู้ร่วม เพราะธนาคารจะมีความเสี่ยงเพิ่ม 2.
ทำงานกันไปสัก 2-3 ปี หลายคนเริ่มมีความคิดอยากจะซื้อบ้านสักหลัง ยิ่งถ้าครอบครัวไหนยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ลูกๆ ที่มีหน้าที่การงานประจำก็จะเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงในการช่วยซื้อที่อยู่อาศัย เเต่เเรงเดียวอาจจะไม่ไหว เเถมเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ ด้วย ดังนั้นอาจใช้วิธี "กู้ร่วม" กับพี่น้อง โดยใครมีรายได้หรือโปรไฟล์ดีกว่าก็จะเป็นผู้กู้หลัก เเต่เรื่องผ่อนบ้านเนี่ยใช่เวลานานหลายสิบปี เกิดป๊ะมีครอบครัวก็ต้องเเยกบ้านไปอยู่ ทีนี้พอจะซื้อบ้านใหม่อีกหลัง.. ปัญหาเริ่มเกิดเเล้ว เพราะสถานะปัจจุบันยังเป็นผู้กู้ร่วมอยู่ จะเเยกตัวออกมากู้เอง มันก็ไม่ง่ายแบบนั้นอะดิ!!